ประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2 ต่างกันอย่างไร
ชื่อผู้แต่ง : ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
วันที่เผยแพร่: 23 กรกฎาคม พ.ศ.2565
หลายคนอาจจะยังคงสับสนลังเลว่าจะทำประกันรถยนต์ชั้นไหนให้แก่รถของคุณดี ซึ่งในปัจจุบันนี้มีประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองหลากหลาย และมีเบี้ยประกันแตกต่างกันไปตามความคุ้มครองของตัวประกัน บางคนอาจจะยังลังเลว่า ถ้าหากต้องการความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกด้านแล้ว ควรเลือกประกันชั้น 1 หรือใช้เพียงประกันชั้น 2 ก็พอแล้ว และประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2 นั้นแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกอย่างไร เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด
การจะเลือกประกันชั้น 1 ก็ดี หรือประกันชั้น 2 ก็ดี
ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า ประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2
นั้นคุ้มครองมากน้อยแค่ไหน และความคุ้มครองแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันชั้น 1 นั้นเป็นประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูง
แต่เบี้ยประกันก็มีราคาสูงเช่นกัน โดยประกันชั้น 1
จะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด เรียกว่า แม้เบี้ยประกันสูง
แต่หากเกิดอุบัติเหตุแล้วก็ได้รับความคุ้มครองสุดคุ้มค่า
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองดังนี้ : รับผิดชอบต่อชีวิต
ร่างกายของตัวบุคคล ทั้งผู้เอาประกันและบุคคลภายนอก,
รับผิดชอบต่อตัวรถยนต์, รับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก,
คุ้มครองถึงการสูญหาย อัคคีภัย,
คุ้มครองค่าเสียหายจากอุบัติเหตุต่างๆ
ไม่ว่าผู้เอาประกันภัยจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม
แม้ไม่มีคู่กรณีก็ยังได้รับความคุ้มครอง
ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันชั้น 2 นั้นให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1
แต่รายละเอียดและความคุ้มครองจะด้อยกว่าเล็กน้อย
ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองดังนี้ : รับผิดชอบต่อชีวิต
ร่างกาย ของบุคคลภายนอกและผู้โดยสาร,
รับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก,
คุ้มครองกรณีที่รถคันเอาประกันภัยสูญหาย หรือเกิดไฟไหม้
ความแตกต่างของประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2
จากเนื้อหาข้างต้น จะเห็นว่าประกันชั้น 2
นั้นให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1
แต่ยังมีความแตกต่างกันตรงที่ ประกันชั้น 2
จะไม่รวมความเสียหายของรถยนต์คันเอาประกันภัยในกรณีชนพาหนะทางบก
อีกทั้งจะไม่รวมค่าเสียหายในกรณีที่เฉี่ยวชนแบบปราศจากคู่กรณี
สรุปง่ายๆ ก็คือ ประกันชั้น 2
นั้นไม่ได้รับผิดชอบต่อความเสียหายของรถเราจากการเฉี่ยวชนไม่ว่า
จะมีหรือไม่มีคู่กรณี ขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 1
จะคุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด
และเพราะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ประกันชั้น 1
จึงมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันชั้น 2 ประมาณหนึ่ง
แต่ถ้าหากมองในเรื่องความคุ้มครอง ประกันรถยนต์ชั้น 1
ก็คุ้มค่าทีเดียว
ประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2 ควรเลือกประกันรถยนต์ตัวไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา
ประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2 นั้น
ให้ความคุ้มครองต่างกันเพียงเล็กน้อย
และมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ดังนั้นควรเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา
เพื่อที่จะได้จ่ายเบี้ยประกันอย่างคุ้มค่าที่สุด
ซึ่งการจะพิจารณาว่าควรเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1
หรือประกันชั้น 2 นั้น ควรดูรายละเอียดตามนี้
อายุของรถยนต์ที่ต้องการทำประกัน ถ้าหากเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างมาก หากมีการเฉี่ยวชนอาจไม่ค่อยเสียดายนัก การทำประกันรถยนต์อาจเลือกเป็นประกันชั้น 2 ก็ได้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์คันใหม่ป้ายแดง รถยนต์ใหม่ๆ ที่อายุการใช้งานเพียงไม่กี่ปี การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 อาจเหมาะสมกว่า
สภาพของรถยนต์ที่ต้องการทำประกัน ถ้าหากเป็นรถยนต์มือสอง สภาพพอใช้งานได้ อาจจะเลือกทำประกันชั้น 2 แต่ถ้าหากรถยนต์ยังอยู่ในสภาพดี ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ประกันชั้น 1 น่าจะตอบโจทย์กว่า
ฝีมือและความเชี่ยวชาญของผู้ขับขี่รถยนต์ ดังที่กล่าวไปข้างต้น ประกันชั้น 2 นั้นไม่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในกรณีที่รถยนต์ของคุณเฉี่ยวชนไม่ว่าจะมีหรือไม่ มีคู่กรณี ดังนั้นหากคุณขับรถได้เชี่ยวชาญ ชำนาญ มีการเฉี่ยวชนน้อยมาก ในหนึ่งปีแทบไม่เฉี่ยวชนหรือประสบอุบัติเหตุใดๆ เลย การทำประกันชั้น 2 อาจจะเพียงพอแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังขับรถไม่แข็งนัก การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ย่อมได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่ากว่า
งบประมาณในการซื้อประกันรถยนต์ เป็นอีกเรื่องที่จำเป็นต้องคำนึงถึง เนื่องจากประกันชั้น 1 นั้นให้ความคุ้มครองทุกอย่างก็จริง ทว่าเบี้ยประกันก็สูงเช่นกัน ขณะที่ประกันชั้น 2 ค่าเบี้ยประกันจะมีเบากว่าพอสมควร
ความต้องการความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ นอกจากเหตุผลในข้ออื่นๆ แล้ว ตัวคุณเองต้องการความคุ้มครองจากประกันรถยนต์มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากต้องการประกันรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด โดยสามารถสบายใจได้ว่า เมื่อใช้รถใช้ถนนหากเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆ ก็สามารถเบิกจ่ายได้ทั้งหมด ประกันรถยนต์ชั้น 1 ย่อมตอบโจทย์ที่สุด
ทำประกันภัยรถยนต์ วิริยะ กรุงเทพ คุ้มภัย
ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ผ่านแสงทองโบรคเกอร์ มีส่วนลดสุดพิเศษ ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพ.ร.บ.รถยนต์ที่คุ้มค่า ที่แสงทองโบรคเกอร์เรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ประกันรถยนต์ออนไลน์ หรือ คุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง ติดต่อปรึกษา ออนไลน์
ใหม่!!! โปรโมชั่นประกันภัย สำหรับท่านลูกค้าคนพิเศษ โปรโมชั่นสิทธิจำนวนจำกัด!!! รับส่วนลดพิเศษเฉพาะคุณ รับส่วนลดสุดพิเศษจากเบี้ยสุทธิ!!! (รวมส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกันภัยทุกอย่าง อาทิเช่น ส่วนลดกล้อง แอป ประวัติดี เป็นต้น) ถ้าคุณเป็นผู้โชคดีเห็นข้อความนี้ ติดต่อเลยทันที บริษัท แสงทอง โบรคเกอร์ จำกัด สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด
บทความยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่สนใจ
วิธีพ่วงแบตรถยนต์ และข้อห้ามการพ่วงแบตรถยนต์เป็นวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณีที่แบตเตอรี่หมดหรืออยู่ในระดับต่ำจนไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ แต่ปัจจุบันยังมีผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับการพ่วงแบตอย่างถูกต้องและปลอดภัย แสงทองโบรคเกอร์จึงขอแนะนำขั้นตอนการพ่วงแบตเตอรี่ที่ถูกต้องมาฝากกัน
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
ค่าเซ็นแบบวิศวกรสิ่งแวดล้อม แผนผังโรงงาน วิศวกรควบคุม วิศวกรทุกระดับ เซ็นแบบวิศวกรวุฒิวิศวกร โยธา เครื่องกล สิ่งแวดล้อม อุตสาหการ ไฟฟ้า ทั่วประเทศ
ทีมงานวิศวกร แสงทองโบรคเกอร์
เปลี่ยนสีรถใหม่ไม่แจ้งขนส่ง ปัจจุบันนี้วิธีเปลี่ยนสีรถที่นิยมกันมาสำหรับผู้ขับคือก็คือการ Wrap เพราะนอกจากจะดูแลรักษาง่ายแล้วยังสามารถเปลี่ยนสีได้บ่อยๆ อีกด้วย ซึ่งในการเปลี่ยนสีรถแต่ละครั้งนั้นยังมีสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถละเลยได้เลย ก็คือ การแจ้งต่อนายทะเบียนเรื่องการเปลี่ยนสีรถให้เรียบร้อยตามที่กฎหมายกำหนด โดยพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ระบุไว้ว่า
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องทำประกันให้เพียงพอเพื่อคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และรถยนต์ ในบทความนี้จะกล่าวถึงประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ORA GOOD CAT
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
แผ่นกรองอากาศมีหน้าที่ทำอะไร แผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์ช่วยป้องกันและคอยดักจับไม่ให้สารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายเข้าสู่เครื่องยนต์ หากปล่อยให้แผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์สกปรก ก็อาจจะทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันหรือตกค้างอยู่ภายในเครื่องยนต์ สามารถลดกำลังของเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ไม่ดีเท่าที่ควร อัตราเร่งเครื่องลดลงและเพิ่มการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ มันยังทำให้รถยนต์ของคุณเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น เพราะเครื่องยนต์อาจทำงานได้ไม่ดีนัก ทำให้เผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
วิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน กักตัวอยู่บ้าน จอดรถตากแดดทิ้งไว้นานๆ อาจทำรถพังโดยไม่รู้ตัว หน้าร้อนแบบนี้ อย่ามัวแต่ดูแลตัวเองจนลืมดูแลรถคู่ใจ วันนี้แสงทองโบรคเกอร์ขอเสนอ เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน ดูแลให้พร้อมใช้ เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรก็เอาอยู่ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์