การเลือกซื้อรถกระบะ
ชื่อผู้แต่ง : ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
วันที่เผยแพร่: 28 กรกฎาคม พ.ศ.2565
เนื่องจากปัจจุบันรถกระบะหรือรถปิกอัพในไทยได้รับความนิยมสูง ด้วยขนาด ความทนทาน สมรรถนะ และอรรถประโยชน์ จึงถูกนำมาใช้งานแทนรถยนต์นั่งนอกเหนือจากใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย ผู้ผลิตจึงมีการแยกรุ่นย่อยให้เลือกตามความต้องการของผู้บริโภค ทุกกลุ่มมากขึ้น
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนจะเลือกรถกระบะสักรุ่นควรเริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้
ในขณะเดียวกัน ยิ่งตัวเลือกเยอะก็ยิ่งทำให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถกระบะเกิดความสับสน ว่าแต่ละรุ่นย่อยนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกรถกระบะแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นที่แพงสุดเสมอไป เพราะหากต้องจ่ายแพงขึ้นแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จริงก็เป็นอะไรที่เสียเปล่า ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนจะเลือกรถกระบะสักรุ่นควรเริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้
-
ขนาด รถกระบะที่วางจำหน่ายในไทยแทบทั้งหมดจะเป็นรถกระบะขนาดกลาง น้ำหนักบรรทุก 1 ตัน ที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานเชิงพาณิยช์และโดยสาร ดังนั้นหากต้องการเลือกรถกระบะแทนรถเก๋งต้องเข้าใจเสียก่อนว่าจะไม่คล่องตัวยา มขับขี่หรือจอดในเมืองนัก หรือถ้าเน้นขนของเกินพิกัดอาจจำเป็นต้องมีการดัดแปลงเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนไปเลือกรถกระบะบรรทุกขนาดเล็ก ที่รองรับน้ำหนักได้มากกว่า 1 ตัน
-
แบบตัวถัง ในส่วนของแบบตัวถังรถกระบะส่วนใหญ่มักจะมีให้เลือกหลัก ๆ เพียงแค่ 3 แบบ ตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ได้แก่
รถกระบะ 2 ประตู ตอนเดียว รองรับผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง
รถกระบะ 2 ประตู หรือรถกระบะตอนเดียว ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก อุปกรณ์มาตรฐานน้อย ซึ่งจะมีทั้งแบบกระบะปกติที่นิยมนำไปต่อตู้ ทำรถคอก ขนส่งสินค้า, กระบะพื้นเรียบ (Flat Deck) และไม่มีกระบะ (Cab Chassis) ภาษาชาวบ้านนิยมเรียกหัวกระสือ เพื่อนำไปติดตั้งตู้แช่เย็น ทำรถสไลด์
รถกระบะ 2 ประตู แค็บเปิดได้ ตอนครึ่ง รองรับผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง
รถกระบะ 2 ประตู แค็บ หรือรถกระบะตอนครึ่ง ซึ่งจะเพิ่มส่วนของแค็บด้านหลัง ทำให้มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายกว่ารถกระบะตอนเดียว นอกจากนี้บานประตูแค็บยังสามารถเปิดได้เพื่อความสะดวกในการหยิบสัมภาระ แต่ตัวกระบะจะมีปริมาตรความจุลดลง และที่สำคัญแค็บหลังของรถกระบะ 2 ประตูนั้นไม่สามารถโดยสารได้ (ตามกฎหมาย) ถ้าจำเป็นต้องเดินทางเกิน 2 คน เป็นประจำ ควรเลือกรถกระบะ 4 ประตู น่าจะเหมาะกว่า
รถกระบะ 4 ประตู สองตอน รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง
เป็นรถกระบะอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับโดยสาร มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใกล้เคียงรถเก๋ง และยังมีพื้นที่กระบะไว้ใช้สำหรับขนของ ขนอุปกรณ์ที่มีความสูงเกินกว่าหลังคา ทำให้รถกระบะ 4 ประตู ได้รับความนิยมนำมาใช้งานแทนรถยนต์นั่ง
นอกเหนือจากรถกระบะแบบทั่วไปแล้ว ยังมีรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ประเภท Cab Over Engine (เครื่องยนต์อยู่ใต้ห้องโดยสาร) แบบ 1 ตัน หัวเหมือนรถตู้ แต่มี 2 ประตู 2 ที่นั่ง กระบะพื้นเรียบ หรือเอาไว้ดัดแปลงเป็น Food Truck ในราคาต่ำกว่า เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน
-
สไตล์การตกแต่ง นอกจากรถกระบะจะให้ความสะดวกสบายคล้ายรถเก๋งแล้ว ยังมีรุ่นย่อยตกแต่งแนวสปอร์ตหรือแอดเวนเจอร์สำเร็จรูปจากโรงงาน เพื่อบ่งบอกไลฟ์สไตล์ให้เลือกด้วย แต่ถ้าแค่ต้องการรถกระบะเพื่อใช้งานทั่วไปอาจไม่จำเป็นต้องเลือกรถกระบะกลุ่ม นี้ เพราะส่วนใหญ่จะเพิ่มราคาจากรุ่นปกติที่นำมาตกแต่ง และมักไม่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะการขับขี่เท่าไรนัก
-
ความสูงตัวรถ ตัวเตี้ยหรือยกสูง ? นอกจากแบบตัวถังกับการตกแต่งแล้ว รถกระบะยี่ห้อหลักในไทยจะมีรุ่นตัวเตี้ย (ความสูงมาตรฐาน) กับแบบยกสูงให้เลือก ซึ่งข้อดีของรถยกสูงคือ สามารถข้ามผ่านอุปสรรคได้เหนือกว่ารุ่นตัวเตี้ย ตำแหน่งเบาะนั่งสูงให้ทัศนวิสัยการมองเห็นชัดเจน แถมลุคที่ดูทะมัดทะแมง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่ารถกระบะตัวเตี้ย
-
เครื่องยนต์ หนึ่งจุดเด่นสำคัญที่ทำให้รถกระบะถูกเลือกใช้งานแทนรถยนต์นั่ง นอกเหนือจากความทนทานและความประหยัดแล้ว คือพละกำลังเมื่อเทียบกับเงินที่ต้องจ่าย ซึ่งรถกระบะในปัจจุบันจะเป็นแบบดีเซลคอมมอนเรล (รางหัวฉีดแรงดันสูง) ขนาดดาวน์ไซซ์ อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน โดยมีตั้งแต่ขนาด 1.9 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่, 2.3 ลิตร เทอร์โบ, 2.4 ลิตร เทอร์โบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ แต่ก็ยังมีผู้ผลิตบางยี่ห้อยังคงเครื่องยนต์ขนาดความจุสูง เช่น 2.8 ลิตร เทอร์โบ, 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้เลือก
ทั้งนี้ ขนาดความจุเครื่องยนต์ที่มากอาจไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะต้องมีกำลังสูงกว่า ขนาดความจุน้อยเสมอไป เพราะมีการใช้เทอร์โบมาชดเชยความจุกระบอกสูบที่ลดลง แต่เครื่องยนต์ขนาดความจุสูงก็มีข้อได้เปรียบตรงไม่ต้องถูกบีบเค้นกำลังจากเทอ ร์โบมากนัก หากคุณภาพวัสดุ มาตรฐานการผลิตเท่ากัน ใช้งานด้วยเงื่อนไขเดียวกัน รถเครื่องยนต์ใหญ่จะทนทานกว่า
ดังนั้น การจะเลือกเครื่องยนต์แบบไหนให้ดูที่ลักษณะการใช้งานและพฤติกรรมในการขับขี่ เป็นหลัก ถ้าไม่เน้นพละกำลัง ความเร็ว ก็สามารถเลือกเครื่องยนต์ที่พละกำลังน้อยได้ เนื่องจากราคาต่ำ สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่า และเครื่องยนต์ดีเซลทุกขนาดในกลุ่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับการบรรทุกขนาด 1 ตัน ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว
- เกียร์ เกียร์ หรือระบบส่งกำลังของรถกระบะ จะไม่ค่อยมีหลากหลายรูปแบบนัก และมักแบ่งออกเป็นแค่ 2 แบบ คือ
เกียร์ธรรมดา (Manual Transmission หรือ MT)
เกียร์อัตโนมัติ (Auto Transmission หรือ AT)
ถ้าหากต้องการความสะดวกสบายในการขับขี่ ควรเลือกเกียร์อัตโนมัติ ส่วนจะเป็นกี่จังหวะก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่น ยิ่งมีหลายจังหวะ แม้จะช่วยในเรื่องของอัตราสิ้นเปลือง แต่กลไกก็จะยิ่งมีความซับซ้อน เพิ่มภาระในการดูแลรักษาในระยะยาว แต่รถกระบะจะไม่นิยมใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT เนื่องจากต้องรองรับภาระหนักจากการบรรทุกหรือลากจูง
- ระบบขับเคลื่อน อย่างที่ทราบกันดีว่ารถกระบะถูกนำไปใช้งานหลากหลายรูปแบบ จึงต้องมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้ง 2 แบบ คือ
4x2 ขับเคลื่อน 2 ล้อ
4x4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนจะเลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหน ควรคำนึงว่าได้ใช้งานความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในการขับขี่จริงหรือไม่ บ่อยครั้งแค่ไหน เช่น ต้องขับในพื้นที่ทุรกันดาร บุกลุยเส้นทางที่ไม่ใช่ถนนอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากการเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะต้องจ่ายแพงขึ้นแล้ว ยังต้องการการดูแลและบำรุงรักษา ถ้าไม่ใช้งานเลยในระยะยาวมีโอกาสเสียหายเนื่องจากกลไกไม่ได้ขยับตัว แถมต้องแบกน้ำหนักเพิ่มด้วย ถ้าแค่ใช้งานบนถนนทั่วไป ลุยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อก็เพียงพอแล้วด
สั่งซื้อประกันภัยรถยนต์ ออนไลน์
ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ผ่านแสงทองโบรคเกอร์ มีส่วนลดสุดพิเศษ ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพ.ร.บ.รถยนต์ที่คุ้มค่า ที่แสงทองโบรคเกอร์เรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ประกันรถยนต์ออนไลน์ หรือ คุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง ติดต่อปรึกษา ออนไลน์
ใหม่!!! โปรโมชั่นประกันภัย สำหรับท่านลูกค้าคนพิเศษ โปรโมชั่นสิทธิจำนวนจำกัด!!! รับส่วนลดพิเศษเฉพาะคุณ รับส่วนลดสุดพิเศษจากเบี้ยสุทธิ!!! (รวมส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกันภัยทุกอย่าง อาทิเช่น ส่วนลดกล้อง แอป ประวัติดี เป็นต้น) ถ้าคุณเป็นผู้โชคดีเห็นข้อความนี้ ติดต่อเลยทันที บริษัท แสงทอง โบรคเกอร์ จำกัด สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด
บทความยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่สนใจ
ดูแลรถยนต์ในหน้าร้อนง่ายๆด้วยเทคนิคหกข้อ ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นมีอากาศร้อนแทบตลอดทั้งปี ยิ่งถ้าต้องจอดรถยนต์ทิ้งไว้กลางแดดแล้วก็ผู้ขับขี่จะพบว่าภายในตัวรถยนต์จะร้อนระอุจนหน้าหงุดหงิดเลยทีเดียว แล้วรถยนต์ที่ถูกจอดไว้กลางแดดนานๆ ก็คงไม่ดีต่อรถของคุณแน่ๆ เราจึงรวบรวมเทคนิคการปกป้องและดูแลรถจากอากาศร้อนแบบง่ายๆ มาฝากกัน
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
ประกันวินาศภัยคืออะไร ความหมายของการประกันวินาศภัย แสงทองโบรคเกอร์นายหน้าประกันนิติบุคคล ขายทั้งประกันภัยรถยนต์ และประกันวินาศภัยต่างๆ จะมาอธิบายให้เข้าใจ
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
ไฟหมอกเปิดตอนไหน เปิดไฟตัดหมอกยังไงไม่ให้โดนจับ? ปัจจุบันรถรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งไฟตัดหมอกมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานผลิตแต่บางรุ่นที่ไม่มีมาให้ ทางเจ้าของรถก็สามารถติดตั้งเพิ่มเติมภายหลังได้
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
ค้นพบเหตุผลที่น่าสนใจว่าทำไมการซื้อประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีและปกป้องตัวคุณเองจากค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดคิด สำรวจสิทธิประโยชน์มากมายและความอุ่นใจที่ประกันสุขภาพมอบให้
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
บริษัท วิริยะ ประกันภัย เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการประกันภัย มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูง มุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
วิธีตรวจเช็คความหนาของผ้าเบรก ผ้าเบรกถือว่าเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ที่สำคัญสำหรับระบบเบรกของรถคุณ โดยชิ้นส่วนของผ้าเบรกนั้น จะอยู่บริเวณระหว่างคันขาเบรกกับดรัมเบรก ถ้าผ้าเบรกไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อะไหล่ส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจานเบรก เบรกคาลิเปอร์ ก็จะมีประสิทธิภาพการทำงานลดลงไปด้วยและมีอายุการใช้งานที่น้อยลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นการดูแลรักษาผ้าเบรกอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญ
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์