ควรเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่ถึงจะดี

ชื่อผู้แต่ง : ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์
วันที่เผยแพร่: 25 กันยายน พ.ศ.2565
ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่มีหน้าที่คอยรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกและคอยลดแรงกระแทกการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ซึ่งยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนทิศทางการขับขี่และเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนหรือหยุดรถและยางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรดูแลยางรถยนต์และตรวจเช็คลมยางหรือเติมลมยางเป็นประจำทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
ถ้าหากรถยนต์ของคุณนั้น มีแรงดันลมยางที่อ่อนหรือเติมลมยางแข็งเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้ยางรถยนต์ของคุณสึกหรอหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้และยังเพิ่มความเสี่ยงที่ยางรถยนต์ของคุณอาจจะยางแตกหรือยางรั่วได้ และถ้าคุณชอบเติมลมยางที่แข็งเกินไปนั้นยังอาจส่งผลให้รถของคุณมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง แถมยังทำให้ยางรถยนต์สึกหรอไวด้วยเช่นกัน และยางรถยนต์จะไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกจากถนนได้ดีเท่าที่ควร เพราะยางรถยนต์ที่เติมลมยางมากเกินไปนั้นมีการสึกหรอของหน้ายางไม่สม่ำเสมอ และส่วนการปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไปไม่ค่อยเติมลมยางก็จะทำให้การขับเคลื่อนรถของคุณมีการตอบสนองช้าและยังทำให้รถของคุณกินน้ำมันกว่าปกติอีกด้วย แรงดันลมยางที่อ่อนไปก็จะส่งผลให้บริเวณไหล่ยางรถยนต์เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควรอีกด้วย และนี้คือผลกระทบของการเติมลมยางน้อยเกินไปหรือเติมลมยางมากเกินไป
เติมลมยางน้อยเกินไปหรือปล่อยให้แรงดันลมยางน้อยเกินไป
สำหรับยางรถยนต์ที่ถูกเติมลมยางน้อยเกินไปหรือปล่อยให้รถยนต์ของคุณมีแรงดันลมยางน้อยเกินไป คุณอาจพบว่าในการขับขี่ขณะลมยางน้อยเกินไปนั้นอาจทำให้รถของคุณดูเหมือนตอบสนองช้าหรือเฉื่อยเมื่อเลี้ยวเข้าโค้ง ซึ่งการเติมลมยางน้อยเกินไปนั้นยังส่งผลทำให้ยางรถยนต์สามารถบิดหรือโค้งงอได้จนทำให้ภายในยางรถยนต์เกิดความร้อนและสะสมความร้อนไว้ภายในยางรถยนต์ ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ของคุณจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อรักษาความเร็วให้คงที่และทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง ยางรถยนต์ที่เติมลมยางต่ำเกินไปจะทำให้อายุของดอกยางนั้นลดลงทำให้อายุการใช้งานของยางรถยนต์ลดลงไปด้วย ซึ่งทำให้คุณต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ไวกว่าการเติมลมยางเหมาะสม
เติมลมยางมากเกินไป
รู้หรือไม่ว่าการเติมลมยางมากเกินไปนั้นก็ส่งกระทบให้การขับขี่เช่นกัน การที่คุณเติมลมยางเพื่อหรือเติมลมยางแข็งเกินไปนั้นส่งผลทำให้ยางรถยนต์สัมผัสกับถนนจะลดลงทำให้รถของคุณยึดเกาะถนนได้ไม่ดีเท่าที่ควรและการลมยางมากเกินไปนั้นยังทำให้การขับขี่แข็งกระด้าง รู้สึกถึงแรงกระเเทกที่แรงกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในขณะขับรถจนอาจทำให้เสียการควบคุมรถได้และแรงกระแทกนั้นยังส่งผลทำให้เกิดการสึกหรอของส่วนอื่นๆ ของรถคุณ เช่น ช่วงล่างของรถยนต์หรือคอพวงมาลัย เป็นต้น
การรักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์นั้นจะช่วยให้ยางรถยนต์ ของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ช่วยให้รถยนต์ของคุณควบคุมรถได้ดีขึ้นและสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้รถยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หากคุณไม่ทราบว่าแรงดันลมยางรถยนต์ของคุณควรเป็นเท่าใด สามารถดูได้จากสมุดคู่มือของรถเพื่อทำการตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ และนี้คือคำแนะนำการเติมลมยางในรถยนต์แต่ละประเภท มาดูกันว่ารถยนต์ของคุณควรเติมลมยางเท่าไหร่
รถยนต์แต่ละประเภทควรเติมลมยางเท่าไหร่
• รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางที่แรงลม 25 - 30 ปอนด์
• รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางที่แรงลม 30 - 35 ปอนด์
• เติมลมยางรถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมลมยางที่แรงลม 35 - 40 ปอนด์
• รถตู้บรรทุก 7 - 10 คน ควรเติมลมยางที่แรงลม 43 - 55 ปอนด์
ทำประกันภัยรถยนต์ วิริยะ กรุงเทพ คุ้มภัย
ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ผ่านแสงทองโบรคเกอร์ มีส่วนลดสุดพิเศษ ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพ.ร.บ.รถยนต์ที่คุ้มค่า ที่แสงทองโบรคเกอร์เรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ประกันรถยนต์ออนไลน์ หรือ คุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง ติดต่อปรึกษา ออนไลน์
ใหม่!!! โปรโมชั่นประกันภัย สำหรับท่านลูกค้าคนพิเศษ โปรโมชั่นสิทธิจำนวนจำกัด!!! รับส่วนลดพิเศษเฉพาะคุณ รับส่วนลดสุดพิเศษจากเบี้ยสุทธิ!!! (รวมส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกันภัยทุกอย่าง อาทิเช่น ส่วนลดกล้อง แอป ประวัติดี เป็นต้น) ถ้าคุณเป็นผู้โชคดีเห็นข้อความนี้ ติดต่อเลยทันที บริษัท แสงทอง โบรคเกอร์ จำกัด สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด
บทความยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่สนใจ

ไขความลับ: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อทำความเข้าใจความคุ้มครองประกันภัยรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ประเภทต่างๆ รวมถึงความรับผิด ความเสียหายทางกายภาพ การประกันภัยสินค้า และการประกันภัยความรับผิดนอกรถบรรทุก
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์

ไฟไหม้รถ ประกันรับผิดชอบไหมขับรถอยู่ ไฟไหม้รถ ประกันรถยนต์จะรับผิดชอบหรือไม่ ?เชื่อว่าทุกคนต้องเคยพบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนกับตัวเองกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ การเฉี่ยวชน รถชนคน สิ่งของหรือสิ่งกีดขวางต่างๆ ซึ่งทุกเหตุการณ์ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด ทั้งเวลาและสถานที่ แต่ก็ยังมีอุบัติเหตุทางรถอีกเหตุการณ์หนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว เพราะคิดว่าไกลตัวเรา นั่นก็คือ ไฟไหม้รถ เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร ประกันรถยนต์จะรับเคลมประกันหรือไม่ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์

รถอายุเกิน 15 ปี เลือกประกันยังไงดี สำหรับผู้ใช้รถยนต์คงจะรู้ถึงข้อจำกัดในการเลือกทำประกันรถกันมาบ้าง เนื่องจากอายุรถเป็นปัจจัยหนึ่งที่บริษัทประกันรถใช้พิจารณาว่ารถของเราสามารถ ทำประกันรถชั้นไหนได้บ้าง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและค่าชดเชยที่เหมาะสม ซึ่งคงมีผู้ใช้รถหลายคนที่ใช้งานรถอายุเกิน 15 ปี และเกิดคำถามว่า รถที่มีอายุขนาดนี้ควรเลือกทำประกันรถชั้นไหนดีถึงจะตอบโจทย์
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์

ชีวิตอาจเป็นการเดินทางที่ท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยโอกาสในการเติบโตและความสุขเช่นกัน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับและกลเม็ดที่สามารถช่วยคุณนำทางชีวิตขึ้นและลงและใช้เวลาทุกช่วงเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์

สิ่งของอะไรที่ห้ามทิ้งไว้ในรถยนต์ ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นมีอากาศร้อนแทบตลอดทั้งปี ยิ่งถ้าต้องจอดรถยนต์ทิ้งไว้กลางแดดแล้วก็ผู้ขับขี่จะพบว่าภายในตัวรถยนต์จะร้อนระอุจนหน้าหงุดหงิดและการทิ้งสิ่งของที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดตากไว้กลางแดดที่ร้อนระอุนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาเพราะวัสดุบางชนิดไวต่อแสงแดดและอากาศร้อนจัด มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ควรลืมไว้ในรถ
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์

รถเหินน้ำคืออะไร รับมือยังไง ฝนตก รถติด น้ำขังเต็มไปหมด ขับรถแล้วล้อไม่เกาะถนน เกิดอาการเหินน้ำจนเสียหลัก รับมืออย่างไรดี? เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ประกันภัย แสงทองโบรคเกอร์